จากเงินจำนวนนี้ สโมสรจะได้รับ 525 ล้านดอลลาร์สำหรับการเข้าร่วมแข่งขัน และอีก 475 ล้านดอลลาร์จะถูกแบ่งตามผลงานในทัวร์นาเมนต์ โดยเฉพาะสโมสรจากยุโรปที่ได้รับค่าน้ำหนักเพิ่มตามเกณฑ์ด้านกีฬาและเชิงพาณิชย์ ทำให้บางทีมได้เงินมากกว่าทีมอื่นเพียงแค่เข้าร่วม

สโมสรที่ได้เงินมากที่สุด

• เชลซี คว้าแชมป์พร้อมรับเงินไปประมาณ 84 ล้านปอนด์
  

• ปารีส แซงต์-แชร์กแมง รองแชมป์รับไปราว 78.4 ล้านปอนด์
  

• ทีมยุโรปโดยเฉลี่ยรับเงินราว 39 ล้านปอนด์ ต่อทีม
  

• ขณะที่ทีมจากอเมริกาใต้ เช่น ฟลูมิเนนเซ่ ที่เข้าถึงรอบรองฯ ทำเงินได้เฉลี่ย 24 ล้านปอนด์
  

• ผลการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม ก็มีรางวัลแยกต่างหาก โดย ชนะ 1 นัดได้ราว 1.5 ล้านปอนด์, เสมอได้ 730,000 ปอนด์
  
  

ทีมที่แพ้รวดในรอบแบ่งกลุ่ม 3 นัด เช่น Pachuca และ Seattle Sounders ได้รับแค่เงินเข้าร่วมเท่านั้น

Auckland City ฟันเงินเกิน 7 เท่าของรายได้ทั้งปี

แม้เงินรางวัลของทีมเล็กอย่าง Auckland City จากโอเชียเนียจะดูน้อยในภาพรวม (ราว 3.3 ล้านปอนด์) แต่เมื่อเทียบกับรายได้ทั้งปีของสโมสรที่เพียง 488,000 ปอนด์ ถือว่าทำกำไรถึง 7 เท่า ซึ่งตรงข้ามกับ เรอัล มาดริด ที่ได้เงิน 67 ล้านปอนด์ คิดเป็นเพียง 4% ของรายได้สโมสรในปี 2024

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินฟุตบอล เคียร์แรน แม็กไกวร์ เตือนว่า อาจทำให้สโมสรอื่นในนิวซีแลนด์สู้ไม่ได้ในลีกตัวเอง หาก Auckland ลงทุนเงินจำนวนนี้เพื่อเสริมทัพอย่างหนัก ซึ่งอาจสร้างความเหลื่อมล้ำจนกระทบความน่าสนใจของลีกในระยะยาว

เงินที่กลายเป็นทุนซื้อขายนักเตะ

สโมสรยุโรปส่วนใหญ่ใช้เงินรางวัลเป็นทุนซื้อผู้เล่นเพิ่มเติม โดยตามกฎของยูฟ่า สโมสรสามารถใช้จ่ายได้ไม่เกิน 70% ของรายได้รวม หมายความว่า ทุก 50 ล้านปอนด์ที่ได้มา จะใช้จ่ายได้ 35 ล้านปอนด์

• โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้เงินราว 57.9 ล้านปอนด์ จากการเข้าถึงรอบก่อนรองฯ ซึ่งช่วยจ่ายค่าตัว โจบ เบลลิงแฮม จากซันเดอร์แลนด์ได้หมดแล้ว
  

• เชลซี ใช้เงินเสริมทีมไป 198 ล้านปอนด์ ในซัมเมอร์นี้ โดย 84 ล้านปอนด์ของเงินนั้นมาจากคลับเวิลด์คัพ
  

• แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้ตกรอบ 16 ทีม แต่ยังได้เงิน 38 ล้านปอนด์ เพียงพอกับค่าตัวของ รายาน ไอต์-นูรี่ ที่ซื้อจากวูล์ฟส์
  

• เรอัล มาดริด ใช้เงิน 8.4 ล้านปอนด์ ซื้อ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จากลิเวอร์พูลให้มาเล่นก่อนกำหนด และสามารถจ่ายคืนได้ในเวลาแค่ 3 นัด
  
  

ผลดีต่อฝ่ายบัญชี แต่ไม่ใช่ทุกฝ่ายจะพอใจ

แม็กไกวร์กล่าวว่า “ถือเป็นข่าวดีสำหรับนักบัญชีในสโมสร เพราะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและกำไร แต่สำหรับแฟนบอล, นักเตะ และผู้จัดการทีม อาจมองต่างออกไป”

เขาเตือนด้วยว่า “เรากำลังเข้าสู่จุดวิกฤตเรื่องสวัสดิภาพนักเตะ เพราะจำนวนแมตช์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อาจนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างเจ้าของทีมกับนักเตะในอนาคต”